รีวิว เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์

[Marinas]

รีวิว เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ 
  รีวิว เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ (6ixtynin9 the Series) การทำใหม่ที่แทบไม่ต่างจากต้นฉบับ มีแค่การเสริมเรื่องราวยิบย่อยเพิ่มมาเท่านั้น บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ (6ixtynin9 the Series)ผลงานออริจินัลเรื่องล่าสุดจาก Netflix ประเทศไทยซึ่งเป็นการหยิบผลงานเก่าอย่างภาพยนตร์ เรื่องตลก 69 ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2542 แต่ความน่าสนใจคือในฉบับซีรีส์นี้จะยังคงได้ตัวผู้กำกับคนดีคนเดิมอย่าง เป็นเอก รัตนเรือง กลับมา ซีรีส์เรื่องนี้จะพาเราไปติดตามเรื่องราวของ ตุ้ม (รับบทโดย ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่) หญิงสาวออฟฟิศดวงซวยที่จู่ๆ ก็ถูกยกเลิกสัญญาจ้างเนื่องจากบริษัทของเธอประสบปัญหาจากการระบาดของโรคโควิด แต่แล้วในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เมื่อจู่ๆ ในเช้าวันต่อมาได้มีกล่องปริศนาที่มีเงินมหาศาลอยู่เต็มกล่องมาวางไว้หน้าห้องเธอ อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดวายป่วงที่จะตามมา ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดนี้จะลงเอยอย่างไรนั้น ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ (6ixtynin9 the Series) มีทั้งหมด 6 ตอน สามารถรับชมได้ทาง Netflix

ตัวอย่าง เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ (6ixtynin9 the Series)

รีวิว เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ (6ixtynin9 the Series)

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวผมก็ตั้งตารออยู่พอสมควรตั้งแต่ที่มีการประกาศสร้างออกมาและมีการยืนยันว่าพี่เป็นเอกจะกลับมากำกับเหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้พอซีรีส์เปิดตัวปั้ปผมก็จัดการดูแบบรวดเดียวจบในทันที ซึ่งหลังจากดูจบแล้วต้องยอมรับว่ามันไม่ได้ถึงกับดี แต่ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว เส้นเรื่องหลักทุกอย่างยังคงเป็นไปตามต้นฉบับแบบเป๊ะๆ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มบทของตัวละครสมทบบางตัว รวมไปถึงมีการเพิ่มเนื้อหาบางอย่างเข้ามา ซึ่งเนื้อหาเหล่านั้นมันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเส้นเรื่องหลัก มันเหมือนเป็นการใส่เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวผู้กำกับเองล้วนๆ เสียมากกว่า โดยรวมในเรื่องบทนั้นยังถือว่าทำได้ดีพอสมควร แต่สำหรับคนที่เคยดูต้นฉบับมาแล้วก็อาจไม่ได้ว้าวอะไรมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยดูฉบับหนังมาก่อนมากกว่าอีกสิ่งที่ทำให้ตัวซีรีส์นี้มีความน่าสนใจก็คือเสน่ห์และสไตล์การเล่าเรื่องของพี่เป็นเอกที่มันยังคงชัดเจนและน่าดึงดูดเหมือนเคย ทั้งจังหวะการเล่าเรื่อง การตัดต่อ มุมกล้อง ไปจนถึงความตลกร้ายแนวทีเล่นทีจริงที่ดูกี่ครั้งก็อมยิ้มทุกที มักจะมีฉากประหลาดๆ ของตัวละครใส่เข้ามาเสมอ เช่น ฉากที่ ทัด ไททานิก เดินเจอลูกน้องของเสียกรรชัยและจู่ๆ ก็ยืนแรปให้ฟัง อันนี้คือมันประหลาดแต่มันก็ฮาดี อีกอย่างที่ตัวซีรีส์ต่างจากหนังอย่างชัดเจนก็คือเรื่องโลกหลังความตาย และการกลับมาจากความตายของตำรวจและลูกน้องของเสี่ยโต้ง น่าเสียดายที่ไอส่วนนี้มันไม่ได้มีส่งผลต่อเส้นเรื่องหลัก หากเขาทำให้มันมีผลจนเปลี่ยนเส้นเรื่องไปจากต้นฉบับมันคงจะไปได้สุดทางกว่านี้ และด้วยความที่มันไม่ส่งผลต่อเส้นเรื่องนี้เองมันจึงอาจทำให้หลายคนรู้สึกว่าส่วนที่เติมมานี้มันไร้ประโยชน์และเป็นการยืดเวลาให้ยาวเฉยๆ อันนี้แล้วแต่คนจะคิดเลย ส่วนตัวผมแล้วผมชอบ เพราะมองว่าการใส่เรื่องนี้มามันเป็นการบอกกับคนดูแบบโต้งๆ เลยว่า "อย่าถามหาความสมเหตุสมผล" ดูเอาสนุกก็พอส่วนต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้ถือว่าดีพอตัว ใหม่ดาวิกาเล่นบทตุ้มได้ดีเอาเรื่อง แต่ก็ยังไม่ดีเท่ากับต้นฉบับอยู่ดีหากนำมาเปรียบเทียบกัน คุณหมิวเธอเล่นไว้สุดจริงๆ ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็ถือว่าดีตามมาตรฐาน ด้วยความที่เรื่องราวมันทีเล่นทีจริงอยู่แล้ว ดังนั้น การแสดงจึงไม่ต้องเน้นอะไรมากมาย ส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้คือดีเยี่ยมจนไม่รู้จะติอะไรแล้ว งานภาพออกมาสวยทุกช็อต โทนสีที่ใช้ก็ดี งานโปรดักชั่นดีงาม เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครดีทุกชุดจริงๆ โดยเฉพาะการดีไซน์โลกหลังความตายนี่ผมชอบมากๆ มันโคตรมีเอกลักษณ์จริงๆ อีกสิ่งที่อยากพูดถึงคือเรื่องการใส่เรื่องการประท้วงของม็อบเข้ามา อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่พี่เป็นเอกแกอยากใส่มาเพื่อเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของแกเฉยๆ ซึ่งหากใส่มาและให้มันส่งผลต่อเส้นเรื่องด้วยมันคงจะดีกว่านี้ สรุปโดยรวมก็คือ ฉบับซีรีส์นี้แทบไม่ต่างอะไรมากจากต้นฉบับ พอดูได้สนุกๆ แต่ไม่ถึงกับดีเยี่ยมจนน่าจดจำ